saraban-pyomoph@moph.go.th 054-409-199

วันที่ 2 ธันวาคม 2563 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา นายกมล เชียงวงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพะเยา พร้อมด้วย นายพินิจ แก้วจิตคงทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา นายแพทย์ศุภชัย บุญอำพันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพะเยา และนายแพทย์อนันต์ มาลัยรุ่งสกุล รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพะเยา ร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนจังหวัดพะเยาว่า ขณะนี้จังหวัดพะเยา พบผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( โควิด19 ) เพิ่มอีก 1 ราย เป็นผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 28 ปีภูมิลำเนาที่อยู่อำเภอจุน จังหวัดพะเยา เมื่อระหว่างวันที่ 1 ถึงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 ได้เดินทางไปทำงานที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งที่เมืองท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวมีการระบาดของโรคติดเชื้อโควิด19 จึงเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 โดยเดินทางกลับผ่านช่องทางธรรมชาติ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เข้าพัก ณ บ้านเพื่อนในพื้นที่หน้าด่านอำเภอแม่สายจังหวัดเชียงราย จากนั้นวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 ได้เดินทางจากอำเภอแม่สายไปยังพื้นที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ได้ไปเที่ยวงานคอนเสิร์ตแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงรายและเข้าพักที่โรงแรมในตัวเมืองเชียงราย และในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 ได้เดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่และเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด19 ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นเดินทางกลับจังหวัดพะเยาและเข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลพะเยา เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2563 ผลการตรวจ พบการติดเชื้อโควิด 19 ขณะนี้ผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพะเยา มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 1 ราย ซึ่งขณะนี้เข้ารับการเฝ้าระวังสังเกตอาการที่โรงพยาบาลพะเยา ดังนั้น ขอให้ผู้ที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน หรือเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่ที่มีรายงานการระบาด ปฏิบัติตนดังนี้ กลุ่มเสี่ยงสูง จำนวน 1 ราย คือ สามีผู้ป่วย และกลุ่มเสี่ยงต่ำคือ ประชาชนในจังหวัดพะเยาที่เดินทางไปร่วมงานแสดงดนตรีที่สิงห์ปาร์ค จังหวัดเชียงราย ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 ช่วงเวลา 18.00 ถึง 23.00 น. และอยู่ในโซนรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่นั่งโต๊ะและไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้อื่น ให้สังเกตอาการป่วยด้วยระบบทางเดินหายใจ คือ ไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อย ในระยะเวลาภายใน 14 วัน ( วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 ถึง วันที่ 13 ธันวาคม 2563 ) ให้ไปรับการตรวจที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน ทั้งนี้ให้ดำเนินการตามมาตรการด้านสาธารณสุขดังนี้ คือ ให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ และสแกนไทยชนะอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้สั่งการหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกส่วน พร้อมเรียกประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพะเยา เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2563 ว่าตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด19 กระทรวงมหาดไทยแจ้งปรากฏสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด19 ในประเทศเพื่อนบ้านทางด้านตะวันตกของประเทศไทย และอาจมีการแพร่ระบาดเข้ามาในประเทศไทย โดยผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งมิได้ผ่านมาตรการคัดกรองโรคตามที่ประเทศไทยกำหนด เพื่อป้องกันและสกัดกั้นให้เกิดการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอันจะนำไปสู่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด19 ในประเทศไทย คณะกรรมโรคติดต่อจังหวัดพะเยา จึงมีมิติที่ประชุมให้ดำเนินการและกำชับส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1. ให้ตั้งจุดสกัดคัดกรองในแนวเขตระหว่างจังหวัดซึ่งเป็นทางเข้ามายังจังหวัดพะเยาและให้บูรณาการส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่ ติดตามค้นหาแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบกลับเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมายในสถานประกอบการและสถานที่ทำงานที่มีการใช้แรงงาน ต่างด้าว หากพบให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายและมาตรการทางด้านสาธารณสุข 2. ให้ประชาสัมพันธ์ประชาชนในหมู่บ้าน ชุมชน ช่วยกันเฝ้าระวัง สอดส่อง หากพบหรือมีบุคคลต้องสงสัยว่าเป็นแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบกลับเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ให้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอ หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพื่อดำเนินการต่อไป 3. ให้ตำรวจภูธรจังหวัดพะยาและอำเภอทุกอำเภอ รายงานผลการปฏิบัติงานให้จังหวัดพะเยาทราบ เพื่อที่จะได้รวบรวมผลการปฏิบัติดังกล่าวให้กระทรวงมหาดไทยทราบต่อไป 4. ในกรณีที่มีการจับกุมขอให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพะเยา ดำเนินการรายงาน การจับกุมบุคคลต่างด้าวที่ลักลอบเดินทางเข้าประเทศ